ยังพบลักลอบเผาคุมเข้มต่อป้องกันหมอกควัน

แชร์ข่าว

เมื่อเวลา09.00น. วันที่6มีนาคม 2561 นายภาสกร บุญญลักษม์ รองผู้ว่าราชการ จังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมการปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขไฟป่าและหมอกควันในช่วง 60 วันอันตราย ตั้งแต่วันที่ 12 ..-12 เม..นี้ ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดเชียงราย หลังจากพบว่าพื้นที่ ได้เกิดจุดความร้อนที่วัดได้จากดาวเทียมได้เป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ประกาศห้ามเผา โดยครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 .. ที่หมู่บ้านพญาโกหา หมู่ 6 .ศรีถ้อย อ.แม่สรวย มีพื้นที่ถูกเผา 2 จุด จุดแรกเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ 88 ตารางวา จุดที่ 2 ประมาณ 2 ไร่ 1 งาน 59 ตารางวา และสามารถดำเนินคดีกับคนเผาเป็นชายได้ 1 คน ตามพรบ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.. 2507 ข้อหาเผาป่า กระทำการใดๆอันทำให้เกิดความเสียหายแก่สภาพป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และ พรบ.ป่าไม้ พ.. 2484 ข้อหาแผ้วถาง เผาป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ด้วย

สำหรับที่ อ.เวียงแก่น ไฟได้ลุกไหม้พื้นที่ไร่สวนของชาวบ้านพื้นที่บ้านทรายทอง หมู่ 7 .ปอ อ.เวียงแก่น ชายแดนไทยสปป.ลาว เนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เหตุเกิดบ่ายวันที่ 4 มี..ที่ผ่านมาซึ่งหลังเกิดเหตุชาวบ้านได้ระดมกำลังกันเข้าไปดับจนควบคุมเพลิงไว้ได้ และทางอำเภอได้ตรวจสอบพบเจ้าของไร่แต่ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนเผาเพราะช่วงเกิดเหตุไปร่วมพิธีแต่งงานภายในหมู่บ้านแต่อาจถูกกลั่นแกล้ง ทำให้ไม่สามารถดำเนินคดีกับผู้ใดได้

ด้านนายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้เชิญตัวนายคำรณ ศรีโพธิ์ นายอำเภอเวียงแก่น นายแสน ลือชา นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ปอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าของไร่ไปทำความเข้าใจ ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย

 

นายณรงค์ศักดิ์ บอกว่า การเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่มาพบไม่ได้เป็นการตำหนิแต่เพื่อทำความเข้าใจร่วมกันและป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก เพราะเชียงรายเป็นเมืองท่องเที่ยวทำให้มีรายได้หลักจากภาคการท่องเที่ยวหากมีปัญหาหมอกควันมากก็จะส่งผลกระทบได้ ดังนั้นจึงให้ไปประชุมหารือกับชาวบ้านเพื่อป้องกันเหตุในอนาคตและทำแผนกรณีพ้นช่วงกำหนดห้ามเผาดังกล่าวไปแล้ว เพื่อจะได้เฉลี่ยการเผาแต่ละพื้นที่ให้เหมาะสมไม่เผาพร้อมกันในพื้นที่ใกล้เคียงกันไม่เช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองมากขึ้นมาอีก ทั้งนี้ขอให้แต่ละพื้นที่ได้อดทนและพยายามไม่ให้เกิดการเผาต่อไปอีกแค่ประมาณ 1 เดือนจากนั้นคาดว่าฝนจะตกลงมาและทำให้สถานการณ์ดีขึ้น ขณะเดียวกันได้ให้ทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย ได้ประสานไปยังท้องที่ใกล้เคียงเพราะสังเกตุเห็นการลุกไหม้ไฟป่าจำนวนมากด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบไปทั่วโดยเฉพาะเมื่ใกลุ่มควันจากไฟในประเทศเพื่อนบ้านด้วย

ส่วนจังหวัดเชียงราย ได้มีการรักษามาตรฐานการป้องกันการเผาจนทำให้ฮอตสปอตและปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันในพื้นที่ลดลงมาตามลำดับ ขณะที่ในวันที่ 6 มี.. กรมควบคุมมลพิษรายงานคุณภาพอากาศจาก อ.แม่สาย มีปริมาณฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนในอากาศในปริมาณ 76 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรและเขต อ.เมืองเชียงราย วัดได้ 54 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังไม่เกินค่ามาตราฐาน//////////

ข่าวอื่นๆ